
ความบกพร่องของส่วนประกอบรถ โดยเฉพาะคันเร่งค้างเป็นสาเหตุหนึ่งที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้ การเรียนรู้และการตัดสินใจแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอย่างถูกวิธี
จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อความปลอดภัย ขอแนะ วิธีเอาตัวรอด กรณีรถ คันเร่งค้าง ดังนี้
– สาเหตุของคันเร่งค้าง มักเกิดจากคันเร่งติดอยู่ในพรมหรือยางรองพื้นรถที่หนาเกินไป
– คันเร่งหนืด
– ระบบคันเร่งไฟฟ้าในส่วนของระบบอิเล็กทรอนิกส์ทำงานผิดปกติ ทำให้รถเกิดการเร่งทั้งที่เหยียบเบรก
วิธีสังเกตอาการคันเร่งค้าง เมื่อเหยียบคันเร่งแล้วแป้นคันเร่งจมไปกับพื้นรถหรือค้าง ไม่สามารถเหยียบให้จมลงไปได้ หรือแป้นคันเร่งลื่นเบาผิดปกติ แสดงว่าคันเร่งค้าง
คันเร่งค้าง อย่าดับเครื่อง! มีวิธีที่ไวกว่าและปลอดภัยกว่า ดังนี้
1. ผลักไปเกียร์ว่าง
การผลักไปเกียร์ว่าง คือการตัดไม่ให้เครื่องยนต์ส่งกำลังไปยังเกียร์ (ซึ่งเกียร์ก็คือสิ่งที่ส่งกำลังขับเคลื่อนไปยังล้อรถของท่าน การผลักไปเกียร์ N (เกียร์ว่าง) นั้น
หากท่าน ลองทำเล่นๆ กับรถของท่านดูจะพบว่ามันสามารถผลักไปตรงๆได้โดยไม่ต้องกดปุ่มที่หัวเกียร์ แล้วจะไม่เลยไปถึงเกียร์ R (ถอยหลัง) ด้วย
เมื่อคันเร่งยังค้างอยู่ แล้วตบไปเกียร์ว่าง รอบเครื่องยนต์จะพุ่งขึ้นสูง ไม่ต้องตกใจ
2. เบรกและพยายามเอารถเข้าข้างทางอย่างปลอดภัย
หลังจากเข้าเกียร์ N ตัดกำลังไม่ให้เครื่องส่งไปที่เกียร์แล้ว ทีนี้ก็เบรก แต่ในการเบรกนั้น ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยรอบตัวด้วย ไม่ใช่ว่า คันเร่งค้างปุ๊บ ตบเกียร์ N แล้วเบรกหัวทิ่มทันที อันนี้ก็เจ็บตัวได้เหมือนกัน
แต่หากข้างหน้าไม่มีรถติด และมีเนื้อที่ปลอดภัยพอสำหรับการหยุดรถ ก็ให้เบรกชะลอลง มองหาขอบทางว่าตรงไหนพอจะจอดได้อย่างปลอดภัย
1. ห้ามดึงกุญแจหรือปิดสวิตช์เครื่องยนต์ขณะรถกำลังวิ่ง เพราะจะทำให้พวงมาลัยล็อกจนไม่สามารถบังคับทิศทาง รถได้
2. อย่าดับเครื่อง
3. เข้าเกียร์ N (เกียร์ว่าง) ถ้าเป็นรถเกียร์ธรรมดาก็เหยียบคลัตช์แล้วปลดมาเกียร์ว่าง
4. เบรกโดยคำนึงถึงความปลอดภัย
ทั้งนี้ การเรียนรู้วิธีแก้ไขสถานการณ์กรณีคันเร่งค้าง จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายร้ายแรง ทำให้สามารถควบคุมเหตุฉุกเฉินได้อย่างปลอดภัย. ด้วยความห่วงใยจากกรมทางหลวง
แหล่งที่มา: naykhaotom.com